ประวัติพระมงคลวุฒาจารย์ (บุญมี ขนฺติโก)
วัดบางโฉลงใน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
พระมงคลวุฒาจารย์
ฉายา ขนฺติโก
นามสกุล ม่วงนาค
อายุ ๙๔ ปี
พรรษา ๗๐ พรรษา
วิทยฐานะ นักธรรมเอก
ตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบางโฉลงใน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
และดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางพลี
สถานะเดิม
ชื่อ บุญมี ม่วงนาค เกิดวันจันทร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะแม
ตรงกับวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๕๐ ณ. บ้านบางโฉลง หมู่ที่ ๒ ตำบลบางโฉลง
อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โยมบิดาชื่อ นายเนียม ม่วงนาค โยมมารดาชื่อ นาง หงิม ม่วงนาคมีพี่น้องรวม ๖ คน
ท่านเป็นลูกคนที่ ๒
อุปสมบท
วันอาทิตย์ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๖ ปีมะแม ตรงกับวันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๔๗๕
เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ. วัดบางโฉลงใน ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
โดยมีพระสมุห์เผือก (พระครูกรุณาวิหารี เจ้าคณะหมวด) วัดกิ่งแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์
พระปลัดกุ่ย วัดบางพลีใหญ่ใน เป็นพระกรรมวาจาจารย์
พระอาจารย์เล็ก วัดบางโฉลงใน เป็นพระอนุสาวนาจารย์
วิทยฐานะ
พ.ศ. ๒๔๖๓ สำเร็จชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
พ.ศ. ๒๔๗๗ สอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๔๘๗ สอบได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๕๐๐ สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดบางโฉลงใน
งานปกครอง
พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๔๘๘ เป็นเจ้าอาวาสวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๕๐๖ เป็นเจ้าคณะตำบลบางพลี
พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอบางพลี
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นเจ้าคณะอำเภอบางพลี
พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางพลี
งานศึกษา
พ.ศ. ๒๔๗๘ เป็น กรรมการศึกษาของโรงเรียนประชาบาลวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๔๗๙ เป็น สำนักเรียนพระปริยัติธรรม และเป็นครูสอนปริยัติธรรม
พ.ศ. ๒๕๑๐ เป็น สนามสอบความรู้พระนวกภูมิทุกวัด ในเขตอำเภอบางพลี
พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็น สนามสอบความรู้ธรรมสนามหลวงของอำเภอบางพลี
พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็น พระธรรมทูต
พ.ศ. ๒๕๓๒ เป็น กรรมการสนามหลวงแผนกธรรม
พ.ศ. ๒๕๔๒ ทำวิจัย เรื่องโครงกาบรรพชาอุปสมบทภิกษุสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนพรรษา ๖ รอบ กรณีศึกษาการฝึกอบรมสามเณรภาคฤดูร้อน วัดบางโฉลงใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
การส่งเสริมการศึกษา
๑. ได้ตั้งรางวัลไว้ เพื่อมอบแก่ภิกษุสามเณรที่ตั้งใจเรียนพระปริยัติธรรม และ๒สามารถท่องนวโกวาทได้จบหรือมาก เพื่อยกย่องและเป็นกำลังใจ
๒. ได้จัดหาทุน และรางวัลมอบแก่ครูสอนปริยัติธรรมทุกรูป ตลอดมาทุกปี
๓. ได้ช่วยส่งเสริมให้พระภิกษุสามเณร ที่หวังความก้าวหน้าได้ไปศึกษาต่อทั้งทางธรรมบาลีและสายสามัญ
๔. ได้จัดหาทุนเพื่อการศึกษา ให้แก่โรงเรียนประจำวัด เพื่อมอบให้แก่นักเรียนที่เรียนดี ประพฤติดีแต่ยากจน ได้มีโอกาสศึกษาต่อไป ตลอดทุกปี
๕. ได้ช่วยจัดหาอุปกรณ์ การเรียนต่างๆ มอบให้แก่โรงเรียนบ้างตามสมควร
๖. ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ถึง พ.ศ. ๒๕๒๔ ได้ไปร่วมเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมตามสำนักเรียนต่างๆในเขตการปกครอง
๗. ได้ช่วยจัดหาครูสอนปริยัติธรรม ส่งไปยังสำนักเรียนต่างๆ ที่ขาดแคลนครูสอนเพื่อช่วยให้ภิกษุสามเณรได้มีโอกาศึกษาเล่าเรียนโดยทั่วถึงกัน
๘. แจกทุนการศึกษา ให้กับเด็กนักเรียนทุกระดับที่เรียนดี แต่ยากจนทุกโรงเรียนในตำบลบางโฉลง และใกล้เคียงปีละ ๑๐๙ ทุน ๆ ละ ๑,๐๐๐ บาท เป็นเงิน ๑๐๙,๐๐๐ บาท
๙.. ได้จัดตั้งทุนบุญนิธิ เพื่อการศึกษาของภิกษุสามเณรวัดบางโฉลงใน เป็นเงิน จำนวน ๘๓๒,๕๓๙ บาท
๑๐ ได้จัดตั้งบุญนิธิ “พระครูอดุลศาสนการ” ด้วยเงินจำนวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
๑ ส่งเสริมการศึกษาและการพระศาสนา
๒ ปฏิสังขรณ์ถาวรวัตถุในวัดบางโฉลงใน
๓ บำรุงส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรม การสาธารสุข รักษาโรคภัยไข้เจ็บแก่ภิกษุสามเณรที่ขาดอุปการะ
๔ บรรเทาทุกข์ผู้ประสบสาธารณภัย
๕ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และการกุศลอื่นๆ
๖ ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น
๗ เพื่อร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆเพื่อสาธารณประโยชน์
๘ ไม่ดำเนินการเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด
๑๑. จัดตั้งมูลนิธิ ๖๐ ปี โรงเรียนวัดบางโฉลงใน ด้วยทรัพย์สินของมูลนิธิ มีทุนแรกเริ่มจำนวนเงิน ๑,๑๗๗,๕๙๐.๘๒ บาทโดยมีวัตถุประสงค์ของมูลนิธินี้คือ
๑. เพื่อการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา
๒. เพื่อสนับสนุนทุนโครงการอาหารกลางวัน
๓. เพื่อสนับสนุนการกีฬาและการดนตรี
๔. เพื่อทำการกุศลหรือร่วมมือกับองค์การกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์และสังคมสงเคราะห์
๕. ไม่ดำเนินเกี่ยวกับการเมืองแต่ประการใด
๑๒ได้จัดหาทุน เพื่อสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๓๖ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตราชสุดฯสยามบรมราชกุมารี โรงเรียนวัดบางโฉลงใน ลักษณะทรงไทย ๒ ชั้น ๓ มุข ๑๖ ห้องเรียนโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กตลอดทั้งหลัง งบประมาณ ๒๐ ล้านบาทเศษ พร้อมเครื่องอุปกรณ์การเรียนการสอนด้วยโดยไม่ใช้งบของทางราชการเลย
๑๓ ได้จัดหาทุนเพื่อสร้างอาคารอดุลธรรมศาสตร์โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดบางโฉลงในลักษณะทรงไทย ๓ ชั้น ๒ มุข อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กตลอดทั้งหลัง งบประมาณ ๑๕ ล้านบาท เศษ พร้อมวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนประจำอาคารเรียนประมาณ ๓ ล้าน บาทเศษ
๑๔ ได้จัดหาทุนสร้างหอสมุดเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาค้นคว้าของนักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปมอบให้แก่กรมสามัญศึกษาอาคาร กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังพร้อมวัสดุอุปกรณ์งบประมาณ ๗ บาท
๑๕ ได้จัดหาทุนเพื่อสร้างอาคารเด็กอนุบาล (เด็กก่อนเกณฑ์) โรงเรียนวัดบางโฉลงในลักษณะทรงปั้นหยา ๒ ชั้น ๑๐ ห้องเรียน กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๔๕ เมตร อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังงบประมาณ ๔,๒๕๐,๐๐๐ บาทโดยไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการเลย
งานเผยแพร่
เป็นผู้อบรมศีลธรรมพระภิกษุสามเณรประชาชนและนักเรียนตลอดจนทำกิจกรรมต่างๆ คือ
๑. มีการทำวิธีวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอัฐมีบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันสำคัญของชาติตลอดทุกปีโดยมีภิกษุสามเณรบาสก อุบาสิกา พ่อค้าประชาชน ร่วมพิธีมากน้อยตามโอกาสและแต่ละเทศกาล
๒. มีการอบรมพระภิกษุสามเณรภายในวัดเป็นประจำตามวาระและโอกาส
๓. มีการอบรมศิษย์วัดเกี่ยวกับหน้าที่และกฏระเบียบที่ควรปฏิบัติตลอดจนอบรมในด้านศีลธรรมและจรรยามารยาทต่างๆทุกวันพระในฤดูกาลเข้าพรรษา
๔. มีผู้รักษาศีลฟังธรรมเฉพาะเทศกาลตั้งแต่วันวิสาขบูชาเป็นต้นไปจนถึงวันเพ็ญกลางเดือน ๑๒ ของทุกปีประมาณ ๕๐ ถึง ๘๐ คน
๕. มีประชาชนมาบำเพ็ญกุศลประจำตามเทศการทุกปีจำนวน ๘๐ ถึง ๑,๕๐๐ คน
๖. ได้ร่วมมือกับทางราชการอบรมศีลธรรมวัฒนธรรมแก่ข้าราชการตลอดจนพนักงานรัฐวิสาหกิจทั่วไปในบางโอกาส
๗. ได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบลซึ่งในฐานะเป็นประธาน อบต. บางโฉลง โดยปฏิบัติการทั้งในด้านการอบรมและแระกอบกิจกรรมต่างๆตามวัตถุประสงค์ตามคณะสงฆ์ กำหนดขึ้นและกิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้น
๘. พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นหัวหน้าพระธรรมทูต สายที่ ๑ ประจำอำเภอบางพลีให้การแนะนำและร่วมปฏิบัติงานกับพระธรรมทูต ประจำอำเภอบางพลีมาตลอด
๙. พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ให้ความร่วมมือกับกรมการศาสนากระทรวงศึกษาธิการจัดโครงการบรรพชาอุปสมบทภิกษุสามเณรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลพระชนพรรษา ครบ ๖ รอบ กรณีศึกษาการฝึกอบรมสามเณรภาค ฤดูร้อนวัดบางโฉลงในอำเภอบางพลี
จังหวัดสมุทรปราการ
งานสาธารณูปการ
๑. พ.ศ. ๒๔๗๙ ได้เริ่มบำเพ็ญมาตั้งแต่ดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดบางโฉลงใน เมื่อวันที่๑๙ เมษายน ๒๔๗๙ เป็นต้นมา ดังนี้สร้างโรงเรียนประชาบาลวัดบางโฉลงใน ลักษณะทรงปั้นหยาไม้เนื้อแข็ง มุงด้วยสังกะสีถาวร ๒ ชั้น ๑ หลัง
๒. พ.ศ. ๒๔๘๐ ปฏิสังขรณ์ ๑ หลังและสร้างถนนดิน
๓. พ.ศ. ๒๔๘๑ สร้างกุฏิถาวร ๒ หลัง
๔. พ.ศ. ๒๔๘๒ สร้างกุฏิถาวร ๒ หลัง
๕. พ.ศ. ๒๔๘๓ * สร้างกุฏิถาวร ๓ หลัง เป็นกุฏิถาวรทางทิศใต้
i. ปฏิสังขรณ์สีมารอบอุโบสถ
๖. พ.ศ. ๒๔๘๔ * สร้างกุฏิถาวร ๓ หลัง กุฏิหลังที่ ๑๑ ด้านเหนือ ๒ หลัง เมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๘๔ เป็นกุฏิปั้นหยา
· พูนดินรอบอุโบสถ
· สร้างสะพานข้ามคลองด้านทิศใต้ของวัด
๗. พ.ศ. ๒๔๘๕ * ปฏิสังขรณ์กุฏิเก่าให้ถาวร ๒ หลัง
· สร้างกุฏิถาวร ๒ หลัง
· พูนดินถนน บริเวณ กุฏิ
๘. พ.ศ. ๒๔๘๖ * สร้างถนนพูนดินไปสุสาน ๑ สาย
· แปลงกุฏิเป็นโรงเรียนปริยัติธรรมชั่วคราว ๑ หลัง
· ทำเขื่อนไม้หน้าวัด
๙. พ.ศ. ๒๔๘๘ * สร้างกุฏิถาวร ๑ หลัง
· สร้างสะพานท่าน้ำพร้อมทั้งบันได ๒ สะพาน
๑๐. พ.ศ. ๒๔๙๐ * เตรียมสร้างศาลาการเปรียญ
· สร้างสะพานท่าน้ำพร้อมทั้งบันได ๒ สะพาน
๑๑. พ.ศ. ๒๔๙๑ * สร้างโรงครัวถาวร ๑ หลัง
· สร้างโรงเรียนปริยัติธรรมถาวร ลักษณะ ทรงปั้นหยาไม้เนื้อแข็ง มุงด้วยกระเบื้อง ๒ ชั้น ๑ หลัง
๑๒. พ.ศ. ๒๔๙๓ * สร้างศาลาการเปรียญ
· สร้างถนนอิฐถาวรผ่านกุฏิศาลา ถึงอุโบสถ ๑ สาย นายพึ่ง นางทับ อิ่มสบาย สร้างถวาย
๑๓. พ.ศ. ๒๔๙๔ * สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง (ศาลา คำ พูลเจริญ)
๑๔. พ.ศ. ๒๔๙๕ * สร้างกุดังเก็บศพ ๑ หลัง
๑๕. พ.ศ. ๒๔๙๖ * สร้างบ่อน้ำบาดาล
๑๖. พ.ศ. ๒๔๙๘ * สร้างเมรุลอยเผาศพ แบบมณฑป ๓ ชั้น เครื่องไม้สักทั้งหลัง สลักฉลุลายพร้อมมีฉัตรโดยรอบ
๑๗. พ.ศ. ๒๕๐๐ * สร้างอุโบสถหลังใหม่
๑๘. พ.ศ. ๒๕๐๓ * สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง
· ปฏิสังขรณ์หอระฆัง สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๒
๑๙. พ.ศ. ๒๕๑๑ * สร้างศาลาท่าน้ำ
๒๐. พ.ศ. ๒๕๑๒ * ทางวัดบางโฉลงได้ดำเนินการจัดสร้างสถานีอนามัยประจำตำบลบางโฉลง (แพนจันทร์ จวน อุทิศ) ชั้น ๒ แบบ ๓๖๔ โดยดัดแปลงขยายส่วนกว้าง ๖.๕๐ เมตร ยาว ๒๐ เมตร มอบให้แก่กระทรวงสาธารณสุข
* สร้างโรงเรียนประชาบาลวัดบางโฉลงใน แบบ ๐๑ กว้าง ๘.๕๐ เมตร ยาว ๘๔ เมตร
* หล่อพระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในอุโบสถหลังใหม่
* สร้างเสาไฟฟ้าเหล็กแป็ป
* สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง
* สร้างเขื่อนและสะพานท่าน้ำ
๒๑. พ.ศ. ๒๕๑๓ * สร้างถนนดินเขื่อนกับถนนสายบางนา – ตราดเข้าวัด กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๕๖๐ เมตร
* ทาสีโรงเรียนพระปริยัติธรรม
* สร้างห้องน้ำแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก ๓ ห้อง
๒๒. พ.ศ. ๒๕๑๔ * สร้างกุฏิ ๒ ชั้น แบบครึ่งตึกครึ่งไม้ ลักษณะทรงไทย ๒ หลังคู่ กว้าง ๘ เมตร ยาว ๑๐ เมตร
* สร้างถนนคอนกรีต
* ทำช่อฟ้าใบระกา
* สร้างบ่อน้ำบาดาล
๒๓. พ.ศ. ๒๕๑๕ * สร้างศาลาท่าน้ำ ๑ หลัง
* สร้างห้องน้ำ
* ซ่อมแซมศาลาการเปรียญหลังใหญ่
* สร้างศาลาการบำเพ็ญกุศลหน้าศาลาการเปรียญ
* ติดและปั้นลวดลายหน้าบันอุโบสถหลังใหม่
* สร้างกุฏิริมน้ำ ลักษณะบังกะโล ทำด้วยไม้เนื้อแข็ง กว้าง ๔.๗๕ เมตร ยาว ๒๕ เมตร
* สร้างเขื่อนคอนกรีตยางประมาณ ๓ เส้น เศษ
๒๔. พ.ศ. ๒๕๑๖ * สร้างเขื่อนหน้าวัดแบบหินใหญ่เรียงและฉาบด้วยคอนกรีตยาว ๖๕ เมตร
* สร้างห้องน้ำ
* ทำฝ้าอุโบสถหลังใหม่ด้วยไม้มะค่า
* สร้างแท่น (พระประธาน) ในอุโบสถหลังใหม่ ปิดทองปิดกระจก
๒๕. พ.ศ. ๒๕๑๗ * สร้างห้องน้ำห้องส้วมคอนกรีตทั้งหลัง
* กั้นห้องด้วยอิฐซีแพค ใต้ถุนศาลาการเปรียญเป็นที่เก็บพัสดุ
* ทำหินล้าง หินขัด ภายนอกฝาผนัง เสา ลูกกรงพื้นและชานอุโบสถโดยรอบพร้อมทั้งปูหินอ่อนภายนอกพื้นฐานบนด้านหน้าและหลังอุโบสถ
๒๖. พ.ศ. ๒๕๑๘ * สร้างศาลาพักประชาชน (โรงมหรสพ)
๒๗. พ.ศ. ๒๕๑๙ * ปั้นลวดลายซุ้มประตูด้านหน้าและด้านหลังอุโบสถหลังใหม่ จำนวน ๕ ซุ้ม ลักษณะแบบบุษบก
* ปั้นลวดลายซุ้มหน้าต่างอุโบสถหลังใหม่ จำนวน ๑๐ ซุ้ม
* สร้างเสาไฟฟ้าแบบฐานคอนกรีตฉาบด้วยหินล้าง ข้างบนเสาเหล็กแป๊ป ข้างบนเหล็ก
* สร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก บริเวณหน้าวัดด้านทิศตะวันออกยาว ๒๔ เมตร
๒๘. พ.ศ. ๒๕๒๐ * สร้างเขื่อนแบบใช้หินใหญ่เรียงแล้วฉาบด้วยคอนกรีต มีเหล็กแป็ปทำราวตลอด และเทฟุตบาทคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๔ เมตร ยาว ๕๘ เมตร
* ถมดินลานวัดด้านหลังโดยว่าจ้างเพิ่มเติมจากเรือขุดของทางราชการ
* ปฏิสังขรณ์อุโบสถหลังเก่า โดยซ่อมแซมหลังคด้านหน้าและเทพื้นภายในและภายนอกด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กและต่อปีกด้านหน้าด้วย
* เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กศาลาโรงมหรสพ กว้าง ๑๑ เมตร ยาว ๑๖ เมตร
๒๙. พ.ศ. ๒๕๒๑ * ปิดทองซุ้มประตูหน้าต่างอุโบสถหลังใหม่ ค่าแรงและค่าวัสดุอุปกรณ์ในการปิดทอง
* สร้างศูนย์ส่งเสริมความรู้ (หอประชุม) ลักษณะทรงไทยเครื่องบนใช้ไม้เนื้อแข็งทั้งหมดด้านล่างคอนกรีตเสริมเหล็กตลอดทั้งหลัง กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๓๒ เมตร
* สร้างเขื่อนคอนกรีตเสริมเหล็ก ต่อเติมด้านหน้าวัดทิศตะวันออกเฉียงเหนือยาว ๓๘ เมตร
๓๐. พ.ศ. ๒๕๒๒ * สร้างห้องน้ำห้องส้วมแบบคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังภายในฝาผนังติดกระเบื้อง พื้นปูโมเสค จำนวน ๖ ห้องกว้าง ๒ เมตร ยาว ๑๒ เมตร
* ถมดินบริเวณภายในเขื่อนทุกด้าน โดยจ้างเรือตักดิน “ ลักษณะแบบรถเครนตักดิน”
* สร้างโรงลี้ยงอาหาร “ม่วงนาคอนุสรณ์” แบบบังกะโล หลังคาใช้โครงเหล็กมุง กระเบื้อง ด้านล่างคอนกรีตเสริมเหล็กแบบหินล้าง พื้นปูหินอ่อนเสริมหินขัด กว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๒ เมตร พระครูอดุลศาสนการ
* สร้างซุ้มป้ายชื่อวัด อยู่ด้านทิศตะวันออก ลักษณะแบบซุ้มบุษบกปั้นลายกว้าง ๓ เมตร ยาว ๖ เมตร
๓๑. พ.ศ. ๒๕๒๓ * ปูหินอ่อนพื้นและฝาผนังภายในอุโบสถ พื้นภายในกว้าง ๘.๒๕ เมตร ยาว ๑๖.๘๕ เมตร ฝาผนังสูง ๑ เมตร ยาวโดยรอบ ๔๕ เมตร
* ถมดินสนามวัด บริเวณเขื่อนด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้โดยจ้างเรือขุด
๓๒. พ.ศ. ๒๕๒๔ * สร้างศาลาลอย “ที่พักผ่อนประชาชน” แบบลักษณะทรงไทย ไม้เนื้อแข็ง กว้าง ๒.๕๐ เมตร ยาว ๔.๕๐ เมตร
* ทำถนนคอนกรีตเสริมเหล็กกว้าง ๑.๕๐ เมตร ยาว ๑๒.๕๐ เมตร
* งานฉลองสมโภสกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี ทาสีฝ้า ศาลาการเปรียญ
* ต่อเติมศูนย์ส่งเสริมความรู้ “ หอประชุม” โดยต่อออกด้านหลังแบบโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังเครื่องบนใช้ไม้เนื้อแข็งมุงกระเบื้องตีฝ้าด้วย ด้านล่างก่ออิฐฉาบปูนมีห้องน้ำห้องส้วมพร้อม
๓๓. พ.ศ. ๒๕๒๕ * สร้างฌาปนสถาน (เมรุ) ลักษณะแบบจัตุรมุขสองเตาคู่ คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลัง กว้าง ๑๓.๕๐ ม. ยาว ๓๙.๗๗ เมตร
* สร้างเสาไฟฟ้า บริเวณถนนศาลาการเปรียญ ลักษณะฐานล่างคอนกรีตเสริมเหล็กและทำหินล้างทั้งหมดจำนวน ๘ ต้น
* สร้างสะพานข้ามครองบริเวณหน้าวัดบางโฉลงในลักษณะแบบมาตรฐานของกรมชลประทานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดกว้าง ๖ เมตร ยาว ๕๖ เมตร
พ.ศ. ๒๕๒๖ * ปูหินอ่อนแท่นพระประธานในอุโบสถหลังใหม่
* สร้างโต๊ะอาหารไม้สักทั้งชุด จำนวน ๕๐ ชุด
* ถมดินบริเวณวัดด้านทิศตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๒๘ * สร้างกุฏิทรงไทย ๒ ชั้น ๑ หลัง ชั้นบนเป็นไม้ชั้นล่างคอนกรีตเสริมเหล็กฉาบหินล้าง กว้างง ๘ เมตร ยาว ๑๐ เมตร
* หล่อพระพุทธรูปขนาดหน้าตัก ๑๕ นิ้ว จำนวน ๗๐ องค์ เพื่อมอบให้โรงเรียนต่างๆ ในเขตอำเภอบางพลี และใกล้เคียง
พ.ศ. ๒๕๒๙ * ติดดาวพร้อมปิดทองติดกระจก ที่เพดานอุโบสถหลังใหม่
* ติดบัวหัวเสาศูนย์ส่งเสริมความรู้ (หอประชุม) ทาสีทอง
พ.ศ. ๒๕๓๐ * สร้างศาลาเก็บศพทรงไทยคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังภายในปูพื้นด้วย กระเบื้องโมเสค กว้าง ๖ เมตร ยาว ๒๐ เมตร
* ปิดทองลวดลายที่พระเมรุ และติดบานหน้าต่าง
พ.ศ. ๒๕๓๑ * สร้างลานตักบาตรโครงหลังคาใช้เหล็ก มุงกระเบื้องลอนคู่ตักบาตรคอนกรีตเสริมเหล็ก ปูหินอ่อน ฐานล่างเป็นหินขัด กว้าง ๖ เมตร ยาว ๑๕ เมตร
* หล่อพระพุทธรูปปางลีลา สูง ๔ เมตร ๙ นิ้ว
* หล่อพระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร
* หล่อหลวงพ่อเพชร (พระประธานประจำวัด) หน้าตัก ๒๕ นิ้ว ลงรักปิดทอง
* หล่อหลวงพ่อโสธรหน้าตัก ๒๕ นิ้ว
* หล่อหลวงพ่อโตหน้าตัก ๒๕ นิ้ว
* หล่อหลวงพ่อวัดบ้านแหลมสูง ๓ ศอก
พ.ศ. ๒๕๓๒ * บูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถหลังเก่า เปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคา เทพื้นคอนกรีตภายในและภายนอกรอบพระอุโบสถ พื้นภายในปูกระเบื้องโมเสคทาสีตกแต่งใหม่
* สร้างศาลาสำหรับสวดศพ (ศาลาเรืองวณิช) ทรงไทย ๑ หลัง คอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหลังหน้าบันปูปั้น กว้าง ๑๒ เมตร ยาว ๒๖ เมตร
พ.ศ. ๒๕๓๓ * สร้างกุฏิเจ้าอาวาส ลักษณะทรงไทจัตุรมุข โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น ๑ หลัง
* สร้างซุ้มประตูทางเข้าวัดบางโฉลงในถนนบางนา – ตราด กม.๑๖ ลักษณะซุ้มบุษบกปั้นลาย
พ.ศ. ๒๕๓๔ * ดำเนินการสร้างอาคารเฉลิมพระเกียรติ ๓๖ พรรษา สมเด็จพระเทพรัตราชสุดฯสยามบรมราชกุมารี โรงเรียนวัดบางโฉลงใน ลักษณะทรงไทย ๒ ชั้น ๓ มุข ๑๖ ห้องเรียนโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กตลอดทั้งหลัง
* ทำถนนคอนกรีตเสริมเหล็กมาตรฐาน จากสะพานเข้าบริเวณวัดต่อจากที่สภาตำบลทำไว้ในส่วนที่เหลือประมาณ ๗๗ เมตร
* ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ๑ บ่อ พร้อมถังบรรจุน้ำแชมเปญ ๑ ถัง ให้แก่โรงเรียนวัดบางโฉลงใน
พ.ศ. ๒๕๓๕ * สร้างหอระฆังหลังใหม่ โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ลักษณะจัตุรมุข มียอดมณฑป
* สร้างเสาธงประจำวัดบางโฉลงในฐานรอบเสาธงคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๓ เมตร ยาว ๔ เมตร พื้นปูหินแกรนิต
พ.ศ. ๒๕๓๖ * สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดบางโฉลงใน (อาคารอดุลธรรมศาสน์) ฝาผนังในอุโบสถหลังใหม่
* ซ่อมหลังคาและทาสีหลังคาอุโบสถหลังใหม่
* ติดประตูหน้าต่างอุโบสถหลังใหม่ทุกช่องเป็นกระจก
* ประดับมุขประตุหน้าต่างอุโบสถหลังใหม่
* ปิดทองพระประธานและพระอุโบสถ
* ปิดทองปิดกระจกลวดลายหน้าบันซุ้มประตูหน้าต่างอุโบสถหลังใหม่
* ได้ดำเนินการจัดสร้างห้องสมุด ที่อาคารอดุลศาสน์
* ได้ดำเนินการสร้างโรงเรียนอนุบาล วัดบางโฉลงใน
* ได้ดำเนินการสร้างศาลามีสุข ลักษณะทรงไทย ๓ มุข อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๑๐ เมตร ยาว ๑๕ เมตรมุขด้านหน้ายื่น ๔ เมตร กว้าง ๖ เมตร
* ได้ดำเนินการสร้างกุฏิสงฆ์ ลักษณะเรือนไทยแฝด กว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๒ เมตร อาคารชั้นบนเป็นไม้สักทอง หลังคามุงกระเบื้องเกล็ดปลา พื้นใช้ไม้แดงรางลิ้นอัดแน่น ชั้นล่างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก
สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นประทวน
พ.ศ. ๒๔๙๗ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ พระครูอดุลศาสนการ
พ.ศ. ๒๕๑๒ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๑๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๒๗ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
พ.ศ. ๒๕๓๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ (ยก) ในราชทินนามเดิม ที่ พระมงคลวุฒาจารย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น